เพลิงไหม้รถ เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและใกล้ตัวเป็นอย่างมาก อันเนื่องมาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของเครื่องยนต์ รถเก่า การติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ได้มาตรฐาน และอุบัติเหตุ เป็นต้น เพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ จึงควรเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้รถอยู่เสมอ ด้วยการติดตั้งเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสมไว้ภายในรถ วันนี้ อิมพีเรียล จึงอยากแนะนำการเลือกใช้เครื่องดับเพลิงให้เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละประเภท เพื่อให้ทุกท่านสามารถเลือกใช้เครื่องดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพกันครับ - รถยนต์ - ติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งขนาด 2.2 ปอนด์หรือ 5 ปอนด์ โดยติดตั้งไว้บริเวณกระโปรงท้ายรถ - รถตู้ - ประกาศกรมขนส่งทางบกสำหรับรถตู้โดยสารไม่เกิน 13 ที่นั่ง จะต้องติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งขนาด 2.2 ปอนด์ หรือ 5 ปอนด์ จำนวนอย่างน้อย 1 เครื่อง โดยติดตั้งภายในห้องสารไว้ในตำแหน่งเบาะด้านหลังคนขับ พร้อมค้อนทุบกระจกอย่างน้อย 3 อัน ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลัง - รถบรรทุกวัสดุอันตราย (รถบรรทุกลักษณะที่ 4) เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซเหลว สารเคมี วัตถุระเบิด วัตถุไวไฟ เป็นต้น ต้องติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง ที่มีคุณภาพสามารถใช้ดับเพลิงภายในห้องผู้ขับรถและห้องเครื่องยนต์ได้โดยมี ขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัม จํานวนอย่างน้อย 1 เครื่อง ติดตั้งไว้ในบริเวณห้องผู้ขับรถ เครื่องดับเพลิงที่มีคุณภาพสามารถใช้ดับเพลิงที่เกิดจากยาง ระบบห้ามล้อและวัตถุอันตรายที่บรรทุก โดยมีจํานวนและขนาดบรรจุตามที่กําหนด ติดตั้งไว้ในบริเวณด้านหลังห้องผู้ขับรถหรือส่วนที่บรรทุก ดังนี้ - รถที่มีน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวมสูงสุดไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม ต้องมีเครื่องดับเพลิงที่ มีขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัม จํานวนอย่างน้อย 1 เครื่อง - รถที่มีน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวมสูงสุดเกิน 3,500 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 7,500 กิโลกรัม ต้องมีเครื่องดับเพลิงที่มีขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 6 กิโลกรัม จํานวนอย่างน้อย 1 เครื่อง - รถที่มีน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวมสูงสุดเกิน 7,500 กิโลกรัม ต้องมีเครื่องดับเพลิงที่มี ขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 10 กิโลกรัม โดยอย่างน้อยหนึ่งเครื่อง ต้องมีขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 6 กิโลกรัม การติดตั้งต้องติดตั้งในลักษณะที่สามารถนําออกมาใช้งานได้โดยง่าย และต้องติดตั้งในลักษณะที่มีการป้องกัน ผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่น ความร้อน ความเย็น หรือความชื้น เพื่อมิให้เกิดผลต่อการทํางานของเครื่องดับเพลิง . เพื่อการดับเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ อิมพีเรียล ขอแนะนำให้ใช้เครื่องดับเพลิงชนิดสูตรน้ำ และเครื่องดับเพลิงชนิดแห้ง ควบคู่กัน โดยการใช้เครื่องดับเพลิงชนิดสูตรน้ำฉีดเพื่อทำการดับไฟก่อน ซึ่งจะเข้าไปช่วยดับไฟได้ในระดับหนึ่ง จากนั้นใช้เครื่องดับเพลิงชนิดแห้งดับไฟที่เหลือต่อ ซึ่งจะเข้าไปช่วยให้ไฟดับได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็วครับ
เพลิงไหม้รถ เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและใกล้ตัวเป็นอย่างมาก อันเนื่องมาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของเครื่องยนต์ รถเก่า การติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ได้มาตรฐาน และอุบัติเหตุ เป็นต้น เพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ จึงควรเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้รถอยู่เสมอ ด้วยการติดตั้งเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสมไว้ภายในรถ วันนี้ อิมพีเรียล จึงอยากแนะนำการเลือกใช้เครื่องดับเพลิงให้เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละประเภท เพื่อให้ทุกท่านสามารถเลือกใช้เครื่องดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพกันครับ - รถยนต์ - ติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งขนาด 2.2 ปอนด์หรือ 5 ปอนด์ โดยติดตั้งไว้บริเวณกระโปรงท้ายรถ - รถตู้ - ประกาศกรมขนส่งทางบกสำหรับรถตู้โดยสารไม่เกิน 13 ที่นั่ง จะต้องติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งขนาด 2.2 ปอนด์ หรือ 5 ปอนด์ จำนวนอย่างน้อย 1 เครื่อง โดยติดตั้งภายในห้องสารไว้ในตำแหน่งเบาะด้านหลังคนขับ พร้อมค้อนทุบกระจกอย่างน้อย 3 อัน ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลัง - รถบรรทุกวัสดุอันตราย (รถบรรทุกลักษณะที่ 4) เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซเหลว สารเคมี วัตถุระเบิด วัตถุไวไฟ เป็นต้น ต้องติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง ที่มีคุณภาพสามารถใช้ดับเพลิงภายในห้องผู้ขับรถและห้องเครื่องยนต์ได้โดยมี ขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัม จํานวนอย่างน้อย 1 เครื่อง ติดตั้งไว้ในบริเวณห้องผู้ขับรถ เครื่องดับเพลิงที่มีคุณภาพสามารถใช้ดับเพลิงที่เกิดจากยาง ระบบห้ามล้อและวัตถุอันตรายที่บรรทุก โดยมีจํานวนและขนาดบรรจุตามที่กําหนด ติดตั้งไว้ในบริเวณด้านหลังห้องผู้ขับรถหรือส่วนที่บรรทุก ดังนี้ - รถที่มีน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวมสูงสุดไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม ต้องมีเครื่องดับเพลิงที่ มีขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัม จํานวนอย่างน้อย 1 เครื่อง - รถที่มีน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวมสูงสุดเกิน 3,500 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 7,500 กิโลกรัม ต้องมีเครื่องดับเพลิงที่มีขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 6 กิโลกรัม จํานวนอย่างน้อย 1 เครื่อง - รถที่มีน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวมสูงสุดเกิน 7,500 กิโลกรัม ต้องมีเครื่องดับเพลิงที่มี ขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 10 กิโลกรัม โดยอย่างน้อยหนึ่งเครื่อง ต้องมีขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 6 กิโลกรัม การติดตั้งต้องติดตั้งในลักษณะที่สามารถนําออกมาใช้งานได้โดยง่าย และต้องติดตั้งในลักษณะที่มีการป้องกัน ผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่น ความร้อน ความเย็น หรือความชื้น เพื่อมิให้เกิดผลต่อการทํางานของเครื่องดับเพลิง . เพื่อการดับเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ อิมพีเรียล ขอแนะนำให้ใช้เครื่องดับเพลิงชนิดสูตรน้ำ และเครื่องดับเพลิงชนิดแห้ง ควบคู่กัน โดยการใช้เครื่องดับเพลิงชนิดสูตรน้ำฉีดเพื่อทำการดับไฟก่อน ซึ่งจะเข้าไปช่วยดับไฟได้ในระดับหนึ่ง จากนั้นใช้เครื่องดับเพลิงชนิดแห้งดับไฟที่เหลือต่อ ซึ่งจะเข้าไปช่วยให้ไฟดับได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็วครับ